- ล่องเรือเจ้าพระยา เจ้าไหนดี ที่ไหนเด่น แบบไหนดัง?
- สรุป ล่องเรือเจ้าพระยา เจ้าไหนดี โดยรวม ต่างกันอย่างไร
- พรีวิว ล่องเรือแต่ละลำ ลำไหนดี? ลำไหนเด่น? (คลิกที่รูปเพื่อดูรีวิว)
- 1. เมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise)
- 2. รอยัล ปรื้นเซส (Royal Princess)
- 3. วีว่า อลังกา ครูซ (Viva Alangka Cruise)
- 4. ไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ครูซ (White Orchid River Cruise)
- 5. สไมล์ ริเวอร์ไซค์ (Smile Riverside)
- 6. ริเวอร์ สตาร์ ปริ้นเซส (River Star Princess)
- 7. เจ้าพระยา ปริ้นเซส (Chaophraya Princess)
- 8. เจ้าพระยาครุยส์ (Chaophraya Cruise)
- 9. อลังกา ครูซ (Alangka Cruise)
- 10. วันเดอร์ฟูล เพิร์ล (Wonderful Pearl)
- คุณคิดว่าเรือลำไหนเหมาะกับคุณ
- เปรียบเทียบ ราคาล่องเรือ
ล่องเรือเจ้าพระยา เจ้าไหนดี ที่ไหนเด่น แบบไหนดัง?
“ล่องเรือเจ้าพระยา เจ้าไหนดี” มีตั้งแต่ราคา 599 ไปจนถึง 990 บาท ถ้าจะจ่ายเงินล่องเรือทั้งที ลำไหนดีกว่ากัน เราจะพาทุกคนไปดู 10 ล่องเรือเจ้าพระยา ยอดนิยม 2022 พร้อมรีวิว
- เมอริ เดียน ครูซ (Meridian Cruise)
- รอยัล ปรื้นเซส (Royal Princess)
- วีว่า อลังกา ครูซ (Viva Alangka Cruise)
- ไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซ (White Orchid River Cruise)
- สไมล์ ริเวอร์ไซค์ (Smile Riverside)
- ริเวอร์ สตาร์ ปริ้นเซส (River Star Princess)
- เจ้าพระยา ปริ้นเซส (Chaophraya Princess)
- เจ้าพระยาครุยส์ (Chaophraya Cruise)
- อลังกา ครูซ (Alangka Cruise)
- วันเดอร์ฟูล เพิร์ล (Wonderful Pearl)
สรุป ล่องเรือเจ้าพระยา เจ้าไหนดี โดยรวม ต่างกันอย่างไร
ด้านอาหาร
แต่ละลำพื้นฐานจะมี อาหารบุฟเฟ่ต์ไทย-นานาชาติ และ ซีฟู๊ด-แซลมอนซาซิมิ เติมไม่อั้น กินอย่างจุใจ อยู่แล้ว น้ำเปล่า-ชา-กาแฟ จะฟรีทุกลำ ยกเว้นพวกซอฟต์ดริงก์ หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลม จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาหารจะมีความแตกต่างอย่างละนิดอย่างละหน่อย เช่นบางลำมี หมูอบน้ำผึ้ง บางลำมีก๋วยเตี๋ยวเรือ บางลำมาเป็นครก คือมีส้มตำมาตำให้เลย แต่โดยรวมแล้วใกล้เคียงกันหมด
ส่วนที่จะแตกต่างกัน มากที่สุดคือ รูปแบบของอาหารซีฟู๊ด เรือบางลำจะเป็นแบบเผา บางลำจะเป็นแบบออนไอซ์ นอกจากนี้อาหารในแต่ละลำก็จะมีปรับเปลี่ยนไปตามวันต่างๆ บ้างเล็กน้อย
ราคาปัจจุบันของทุกลำเรือ ตอนนี้มีตั้งแต่ 599 ไปจนถึง 1250 บาท/ท่าน
ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของ ความหลากหลาย-ความอร่อย ของอาหาร ความใหญ่ของเรือ บริการ เป็นหลัก
ในส่วนของอาหาร ตัวที่แนะนำจะเป็นราคา 650 บาท ขึ้นไปที่อาหารค่อนข้างไปทางอร่อย ส่วนตัว 890 บาท อาหารจะหลากหลายสุด แต่ถ้าคุ้มสุดก็จะเป็น 399-599 บาท ที่ถ้าเทียบกับราคากับสิ่งที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
**เพิ่มเติม ทุกลำเรือขอแนะนำ ให้ลงไปตักอาหารชั้นล่าง (ชั้นที่มีแอร์) อาหารจะอร่อยกว่า เนื่องจากชั้นบนอาจจะโดนลมทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนไป
ด้านการแสดง
การแสดงแต่ละลำเรือจะมีความใกล้เคียงกัน คือ พื้นฐานจะมี นักร้อง-ดนตรีสด รำไทย แต่บางละจะมี รำโขน มีคาบาเร่ต์โชว์
สำหรับชาวต่างชาติก็จะชอบการแสดงไทย ให้ความสนใจกันค่อนข้างเยอะ หรือ หากบ้านไหนพาเด็กๆมา ก็ได้พามาดูการแสดงไทยๆ แบบนี้ก็หาดูได้ยากในสมัยนี้แล้ว
ตอนท้ายๆใกล้เข้าท่าเรือหลายลำจะเริ่มเปิดเพลงตื้ดๆ ให้ไปแดนซ์กันบนฟลอร์ เอาแคลอรี่ ออกไปได้นิดหน่อย
นอกจากนี้ลำที่มีคาบาเร่ต์โชว์จะเป็นไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซ ซึ่งตอนนี้ก็มีโปรสุดแรงคือ มา 4 จ่าย 3 คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ด้านลักษณะเรือ
ลำที่เป็น 2 ชั้น
คนจะไม่พลุกพล่านมากมาย ค่อนข้างไพรเวท และนักแสดง จะเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย ทำให้หลายๆคน จะสนุกและเอ็นจอยไปกับนักแสดงเหล่านั้น โดยเรือสองชั้นมักจะแยกโซนระหว่าง Indoor และ Outdoor เล็กน้อย ไม่ต้องกลัวฝนมากนัก ในพื้นที่ Indoor ก็จะมีแสงสว่างมากพอที่จะทานอาหารและถ่ายรูปแบบ Portrait ได้ง่ายสบายๆ เหมาะกับการมาเป็นแบบครอบครัว นอกจากนี้แล้ว ยังใกล้จุดตักอาหารบุฟเฟ่ต์ ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย
โดยจะขอแบ่งโซนเป็น 4 โซนได้แก่
ส่วนที่เป็นหัวเรือหรือ Outdoor จำนวนโต๊ะอาจจะไม่มีมากนักก็เหมาะกับสายคู่รัก สวีท ยิ่งหน้าเรือยิ่งดี เพราะว่า โดยปกติแล้ว ส่วนใหญ่ทุกลำเรือเวทีจะอยู่ด้านหน้า รวมถึงลำโพงและไมค์ด้วย เสียงจะค่อนข้างดังมาก ถ้าอยู่บริเวณหัวเรือ หรือกาบเรือ (ที่อยู่หลังหรือข้างๆเวที) ระดับเสียงจะลดลงมาหน่อย แถมบรรยากาศรับชมวิวได้สบายและไพรเวท กว่าใคร ซึ่งจำนวนโต๊ะดังกล่าวจะมีอย่างจำกัด หากใครต้องการจองตำแหน่งนั้นสามารถขอ Request ได้
บริเวณหน้าเวทีที่เป็นโซน Outdoor ก็จะเป็นจุดที่สนุกที่สุดก็ว่าได้ ตรงกลางมักจะมีฟลอร์ให้ทุกท่านสามารถแดนซ์กันได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเขิน เพราะไม่มีคนจำได้ สายปาร์ตี้หรือสายอยากเอ็นจอย มาอยู่โซนนี้ก็ดี แต่ข้อเสียข้อนึงคือ เสียงอาจจะดังนิดนึง เหมาะกับกลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่ อยากมาชมการแสดงไปพร้อมๆกับวิว ในโซนนี้ก็จะถ่ายรูปวิวได้จากโต๊ะที่นั่งได้เลย
โซนที่อยู่ Indoor ใต้หลังคา ตรงนี้จะเหมาะกับสายชอบทาน ใกล้ไลน์อาหารที่สุด เสียงไม่ดังเท่าโซน 1 และ 2 แสงสว่างก็ค่อนข้างดี เหมาะกับมาทั้งครอบครัว หรือชอบเสียงไม่ดังมากนัก การถ่ายรูปอาหารหรือ Portrait คน ก็จะสวยกว่า เพราะมีแสงจากบนหลังคาส่องลงมา
ห้องแอร์ด้านล่าง โซนนี้จะเย็นสบาย เพราะมีแอร์ เสียงไม่ดัง คนไม่ค่อยพลุกพล่านมากนัก สบายๆ เหมาะกับทุกท่าน แต่วิวอาจจะไม่สวยเท่าด้านบน จากกระจกก็สูงเหนือกว่าน้ำมาได้ไม่เยอะมากนัก อาหารด้านล่างมักจะอร่อยกว่าด้านบนเพราะว่า ลมไม่ตีเข้าอาหาร หากทานอาหารเสร็จก็ขึ้นไปดูวิวด้านบนย่อมได้
ลำที่มี 3 ชั้น
เรือประเภทนี้ มักจะคนค่อนข้างเยอะ เพราะมักจะเป็นเรือขนาดใหญ่ จุคนได้มาก แต่พื้นที่และจุดถ่ายรูปจะง่ายกว่ามาก โดยเฉพาะ 3 ชั้น คุณจะสามารถถ่ายวิวได้ทุกมุมของลำเรือ โดยเฉพาะจากโต๊ะของคุณ เรือประเภทนี้จะมีไฮไลท์เด็ดตรงที่ ดาดฟ้ามักจะเปิดโล่ง มีจุดตื่นเต้นอยู่ช่วง ลอดใต้ท้องสะพาน เน้นถ่ายรูปวิวได้สวย ทุกมุมของชั้นดาดฟ้าเลย
เรือลำ 3 ชั้นมักจะมีขนาดที่ใหญ่โต ทำให้พื้นที่เยอะกว่า เรือจะขับไปนิ่งกว่า เรือที่มีขนาดเล็ก ไม่เมาเรือง่าย โซนบุฟเฟ่ต์ก็จะทอดยาวจะตรงกลางเรือมายังท้ายเรือ เพียงพอที่จะสามารถตักอาหารได้ทุกโซน
โดยจะขอแบ่งโซนเป็น 4 โซนได้แก่
โซนหน้าเรือ กาบเรือ หัวเรือ และข้างเวที จะเสียงไม่ดังมากบรรยากาศดี โต๊ะน้อย เหมาะกับคู่รักเช่นกัน ลมตรงนี้จะดีสุด
โซนหน้าเวที จะมีฟลอร์ใหญ่ๆ และ โต๊ะที่อยู่หน้าเวทีเยอะ เหมาะกับขาแดนซ์ ขาปาร์ตี้ หรือ สายที่ชอบฟังเพลง ดนตรีสด และ การแสดง โซนนี้ นักแสดงจะเข้ามาเอ็นจอยได้ง่าย
โซนกลางเรือ-ท้ายเรือ เสียงจะเบาลงมา ใกล้ไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์มากที่สุด เดินไปทางไหนก็ง่าย จำนวนโต๊ะจะค่อนข้างเยอะ เหมาะกับสายที่ไม่ชอบเสียงดังมากนัก ชอบคุยกับเพื่อน ชมบรรยากาศ หรือจะอยู่คุยกับคู่รักก็สบายๆ
ห้องแอร์ด้านล่าง โซนนี้จะเย็นสบาย เพราะมีแอร์ เสียงไม่ดัง คนไม่ค่อยพลุกพล่านมากนัก สบายๆ เหมาะกับทุกท่าน แต่วิวอาจจะไม่สวยเท่าด้านบน ในชั้น 1 กระจกก็สูงเหนือกว่าน้ำมาได้ไม่เยอะมากนัก แต่ถ้าขึ้นมาชั้น 2 ก็จะวิวดีกว่า อาหารชั้น1-2 ก็มักจะอร่อยกว่าด้านบนเพราะว่า ลมไม่ตีเข้าอาหาร หากทานอาหารเสร็จก็ขึ้นไปดูวิวด้านบนย่อมได้
ตัวอย่างภาพบรรยากาศ โดยรวม

เปรียบเทียบ ราคาล่องเรือ
เรือลำเล็กสุดจะเป็น เมอริเดียน และ ริเวอร์ สตาร์ ปริ้นเซส ต่อมาจะเป็น เรือที่มี 2 ชั้น เจ้าพระยา ปริ้นเซส, เจ้าพระยา ครุยส์, สไมล์ ริเวอร์ไซค์
ลำที่มีขนาดใหญ่จะเป็น เรือที่มี 3 ชั้น วีว่า, ไวท์ ออร์คิด, รอยัล ปริ้นเซส อลังกา ไปจนถึงขนดมหึมา วันเดอร์ฟูล เพิรล์ ที่มีขนาดลำใหญ่ที่สุดในน่านน้ำเจ้าพระยาแล้ว
รวมโปรโมชั่นล่องเรือเจ้าพระยา
รวมโปรล่องเรือเจ้าพระยา คลิกที่รูปหรือซูมเพื่อดูโปรล่องเรือ
ท่าเรือของเรือแต่ละลำ
เรือแต่ละลำจะมีเส้นทางการเดินเรือที่เหมือนๆกัน โดยจะวนเป็นวงกลม ตั้งแต่เอเชียทีค ไปจนถึง สะพานพระราม 8 ล่องเรือในแต่ละลำก็อาจจะวนเป็นทวนเข็ม หรือ ตามเข็ม นาฬิกา
แต่จุดที่ขึ้นท่าเรือจะแตกต่างกัน บ้าง โดยจะมี 3 สถานที่ ที่ขึ้นท่าเรือ ได้แก่ ไอคอนสยาม ไอเชียทีค และ ริเวอร์ ซิตี้ สี่พระยา

ท่าไอคอนสยามนี้ จะมีข้อดีคือ สถานที่ช้อปแบรนด์ดังๆ อาหารหรูเยอะ โดยเฉพาะพวกขนมนี่ อย่าพลาดเชียว วิวสวย น้ำพุเริศ อลังการ เรียกได้ว่าที่เดียวจบ มีผู้คนมากมาย แวะมาที่นี่กันเยอะมาก และด้วยความเยอะนี้ หากเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว จะต้องเผื่อเวลาเดินทางอาจจะต้องเผื่อเวลากันนิดนึง โดยเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
หากใครที่เดินทางโดยสารทางสารธณะนี้สบายเลย สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ยาวๆ มาลงสายสีทอง หน้าห้างได้เลย
หรือ จะนั่งเรือข้ามฟากหลักๆจะมี 2 ท่าคือ 1. เรือข้ามฟาก ท่าสี่พระยา ซึ่งก็มีที่จอดรถยนต์เสียเงิน ชม ละ 40 บาท แต่หากสแตมป์บัตรจอดรยนต์ก็ฟรีได้ถึง 3 ชั่วโมง
2. ท่าสาทร(ลงจากBTS สะพานตากสิน) ท่านี้ก็สามารถไปได้เหมือนกันแต่ก็นั่งรถไฟฟ้าต่อไปอีกนิดนึง ไปใช้สายสีทองก็ใช้เวลาพอๆกัน แต่ถ้าหาก มา Taxi แล้วใกล้ๆสาทรก็ใช้เส้นนี้ก็ได

ท่าเอเชียทีค ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวจะไปง่ายๆหน่อย สถานที่ไม่วุ่นวายมาก ที่จอดค่อนข้างกว้างมีสองฝั่งคือฝั่ง เอเชียทีคกับตรงข้ามเลย การจอดรถยนต์จะง่ายกว่าจอด ไอคอนสยาม ก่อนช่วงโควิดก็จะมีร้าน-คนเยอะมากๆ ปัจจุบันร้านค้าก็เริ่มทะยอยกันเปิดร้านมากขึ้นแล้ว ส่วนมากในนี้ก็จะเป็นร้านอาหารริมแม่น้ำ กับจุดถ่ายรูปซะส่วนใหญ่ การเดินทางจะต้องใช้เป็นรถยนต์ Taxi โดยปกติช่วงที่ขึ้นเรือ(ช่วงเย็นๆค่ำๆ) รถก็ไม่ติดมากนัก (ยกเว้นตอนเปิดประเทศ จะมีรถทัวร์เยอะมาก อาจจะต้องกะเวลาดีๆ)
การจอดรถยนต์แนะนำให้จอดฝั่งเอเชียทีคเลย (ที่มีชิงช้าสวรรค์) เพื่อให้เดินน้อยที่สุดจากนั้นตรงมาที่ โกดัง 6 ก่อนเพื่อรับสติ๊กเกอร์-ลงทะเบียน สำหรับขึ้นเรือ
หลังจากลงเรือเสร็จอย่าลืมสแตมป์บัตรจอดรถยนต์เพื่อรับสิทธิ์จอดฟรีด้วยนะ

ริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา จะเด่นเรื่องร้านอาหารติดริมแม่น้ำกับงานแกลอรี่ สาย อาร์ทๆ ที่คนต่างชาติชอบซื้อกลับไป ที่นี่จะเดินทางไปล่องเรือได้ง่ายว เพราะรถยนต์มักจะไม่ค่อยติดเท่าไหร่ หรือถ้าเดินทางมาด้วยสาธารณะ แนะนำให้มาลง MRT แถวๆ สถานีหัวลำโพง จากนั้นนั่งแท็กซี่-สามล้อ-มอเตอร์ไซค์ ต่อ (ไม่เกิน 40 บาท) มาลง ท่าเรือสี่พระยา ได้อย่างง่ายดาย มีที่จอดรถยนต์ ได้ อย่าลืมสแตมป์บัตรจอดรถยนต์ได้ฟรี 2 ชั่วโมง แต่ถ้าซื้ออะไรเล็กๆน้อยๆ เช่น กาแฟ ไอศครีม ก็จอดฟรีได้ถึง 3 ชั่วโมง
พรีวิว ล่องเรือแต่ละลำ ลำไหนดี? ลำไหนเด่น? (คลิกที่รูปเพื่อดูรีวิว)
ขอเริ่มไล่เรียงจากราคาเป็นหลักก่อน พรีวิวนี้อาจจะยาวหน่อยแต่ก็อยากให้ผู้อ่านได้ลองตัดสินใจดูก่อน เราจะพรีวิวอย่างตรงไปตรงมาและกระชับที่สุด

1. เมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise)
ลำนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นเรือลำที่เล็กที่สุด แต่ก็มีความคุ้มค่าที่สุดกับเงินที่จ่ายไป เพราะมีอาหารบุฟเฟ่ต์ ไทย-นานาชาติ + ซีฟู๊ด จัดเต็ม มีไฮไลท์ที่ขนมฟองดู พวกผลไม้ หรือ มาร์ชเมลโล่ เคลือบช็อกโกแลต นี่แหละ ในรอบ Dinner ถือว่าคุ้มมากๆ
เรือลำนี้เป็นเรือที่ค่อนข้างใหม่ เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2018 ตัวเรือมีขนาด 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นห้องแอร์ และ ชั้นบนมีหลังคาแถมมีโซนหัวเรือ Open Air สามารถชมวิวได้ ทั่ว บรรยากาศหัวเรือถือว่าดีมากๆอีกด้วย
จุดลงทะเบียน จะอยู่ที่ ไอคอนสยาม จุดบริการชั้น G โซนสุขสยาม ใกล้ๆกับร้าน นารายา
ลักษณะเรือ: เป็นเรือ สองชั้น ชั้น2 มีหลังคา Open Air และ มีโซนหัวเรือเปิดโล่ง, ชั้น1 ห้องแอร์
อาหาร/การแสดง/ดนตรีสด: บุฟเฟต์อาหารไทย-นานาชาติ พร้อมซีฟู๊ด/มีการแสดง/มีดนตรีสด
2. รอยัล ปรื้นเซส (Royal Princess)
ลำนี้เป็นตัวเริ่มต้นของ เรือ 3 ชั้นขนาดใหญ่ มีดาดฟ้าเปิดโล่ง พึ่งเปิดตัวมาได้ไม่นานมากนัก เรือโดดเด่นด้วยไฟสีฟ้าจ้าสุดๆ ใครเห็นต้องมีมองมา บรรยากาศดี
มีความจุดโดยสารที่ 600 ท่านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยชั้นบนสุดจะเป็นดาดฟ้าสามารถมองวิวได้ 360 องศา จากโต๊ะที่ท่านทานอาหาร ชั้นที่ 1-2 เป็นห้องแอร์ตกแต่งสไตล์หรูโมเดิร์น
ลักษณะเรือ: เป็นเรือ 3 ชั้น ชั้น 3 เปิดโล่ง และชั้น 1-2 เป็นห้องแอร์
อาหาร/การแสดง/ดนตรีสด: บุฟเฟต์อาหารไทย-นานาชาติ พร้อมซีฟู๊ด/มีการแสดง/มีดนตรีสด
ท่าเรือ/การจอดรถ: เอเชียทีค มี 2 ฝั่ง แนะนำให้จอดฝั่ง ที่มีชิงช้าสววรค์ เดินใกล้สุด


3. วีว่า อลังกา ครูซ (Viva Alangka Cruise)
ถัดมาจะเป็น เรือ 3 ชั้นขนาดใหญ่ มีดาดฟ้าเปิดโล่ง
มีความจุดโดยสารที่ 700ท่านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยชั้นบนสุดจะเป็นดาดฟ้าสามารถมองวิวได้ 360 องศา จากโต๊ะที่ท่านทานอาหาร ชั้นที่ 1-2 เป็นห้องแอร์ตกแต่งสไตล์หรูโมเดิร์น
ท่าเรือ ปัจจุบันมีสองท่าเรือ รอบ Sunset จะขึ้นที่ Asiatique และ Dinner จะขึ้นที่ ICONSIAM
ลักษณะเรือ: เป็นเรือ 3 ชั้น ชั้น 3 เปิดโล่ง และชั้น 1-2 เป็นห้องแอร์
อาหาร/การแสดง/ดนตรีสด: บุฟเฟ่ต์นานาขาติพร้อมซีฟู้ด ในรอบ Sunset จะเป็นเมนูเดียวกับรอบ Dinner/มีการแสดง/มีดนตรีสด
4. ไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ครูซ (White Orchid River Cruise)
เป็น เรือ 3 ชั้นขนาดใหญ่ มีดาดฟ้าเปิดโล่ง คนนิยมค่อนข้างเยอะ มีจุดเด่นที่การแสดงคาบาเร่ต์โชว์ บนเรือ มาพร้อมกับเมนูอาหารสุดพิเศษ คือ ไก่ตุ๋นไวน์ กุ้งเผา และหอยเผา
มีความจุดโดยสารที่ 700 ท่านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยชั้นบนสุดจะเป็นดาดฟ้าสามารถมองวิวได้ 360 องศา จากโต๊ะที่ท่านทานอาหาร ชั้นที่ 1-2 เป็นห้องแอร์ตกแต่งสไตล์หรูโมเดิร์น
ท่าเรือ/การจอดรถ: เอเชียทีค มี 2 ฝั่ง แนะนำให้จอดฝั่ง ที่มีชิงช้าสววรค์ เดินใกล้สุด
ลักษณะเรือ: เป็นเรือ 3 ชั้น ชั้น 3 เปิดโล่ง และชั้น 1-2 เป็นห้องแอร์
อาหาร/การแสดง/ดนตรีสด: บุฟเฟต์อาหารไทย-นานาชาติ พร้อมซีฟู๊ด/การแสดง/ดนตรีสด


5. สไมล์ ริเวอร์ไซค์ (Smile Riverside)
เรือลำใหม่ล่าสุด ที่พึ่งเปิดตัวไป เมื่อ 30 ต.ค. 64
มีการตกแต่งแบบโมเดิร์น-หรูหรา โทนสีม่วงๆ ฟ้าๆ ให้บรรยากาศน่าค้นหา
ท่าเรือ/การจอดรถ: ไอคอนสยาม จอดฝั่งโรงแรม ชั้นใต้ดิน ขับตรงมาเลยตึกจอดรถเดินใกล้สุด จอดฟรี 2 ชั่วโมง โชว์บัตรล่องเรือ แสตมป์บัตรก่อนขึ้นเรือได้อีก 2 ชั่วโมง
ลักษณะเรือ: เป็นเรือ 2 ชั้น ชั้น 2 มี 3 โซนคือ ใต้หลังคา หน้าเวที และหัวเรือ และชั้น 1 เป็นห้องแอร์
อาหาร/การแสดง/ดนตรีสด: บุฟเฟต์อาหารไทย-นานาชาติ พร้อมซีฟู๊ด/การแสดง/ดนตรีสด
6. ริเวอร์ สตาร์ ปริ้นเซส (River Star Princess)
เป็นเรือลำเล็ก ย้อนยุคแบบไทย โมเดิร์น ช่วงประมาณปี 2000


7. เจ้าพระยา ปริ้นเซส (Chaophraya Princess)
เป็นเรือที่เปิดบริการอย่างยาวนาน ก่อนหน้านี้จะเน้นลูกค้าชาวต่างชาติ แต่เดิมมีเรือให้บริการเกือบๆ 10 ลำ ปัจจุบันในยุคโควิด มาเน้นลูกค้าชาวไทยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตราฐานที่มีมานานกว่า 10 ปี
เรือลำนี้ต้องไม่พลาด ถ้าหากเน้นบรรยากาศ อาหาร ดนตรีที่ไปเต้นรำหน้าเรือต้องไม่พลาด สนุกแน่นอน
8. เจ้าพระยาครุยส์ (Chaophraya Cruise)
ต่อจากกปริ้นเซสก็จะเป็นเจ้าพระยาครุ้ยส์ ที่ทำตลาดใกล้ๆกัน ปัจจุบันมีอาหารชูโรงใหม่ คือ โซนอาหารญี่ปุ่น มี แซลมอนดิบ ปลาทูน่า มาเสริมทัพ พร้อมเทมปุระ มาให้นักท่องเที่ยวได้ ชิมกัน


9. อลังกา ครูซ (Alangka Cruise)
เป็นเรือ 3 ชั้นที่จุดคนได้เยอะเป็นพิเศษ ภายในมีลักษณะตกแต่งที่หรูหรา โมเดริน์ ไม่เหมือนใคร
กรุ๊ปเหมางานแต่ง เหมาฟลอร์ เหมาลำ เน้นจำนวนคนเยอะ ลำนี้ต้องไม่ควรพลาด
10. วันเดอร์ฟูล เพิร์ล (Wonderful Pearl)
ยิ่งใหญ่ที่สุดในน่านน้ำเจ้าพระยา ลำขนาดมหึมา ไซค์ที่เรียกว่าจุ 2 บันใดเลื่อน กับ น้ำพุ บนเรือได้ อาหารมีความหลากหลายมาก ถ้าหากอยากได้บรรยากาศ และ ความสุดแล้ว ที่นี่ถือว่าคุ้มค่ามาก
การตกแต่งจะผสมกันอย่างหลากหลาย นึกถึงกลิ่นอายของโรงแรมหรูสมัยยุค 2000 เน้นที่เน้น กำมะหยี่ หรูหรา ผสมผสานกับยุคนี้ได้อย่างลงตัว
โซนอาหารมีความหลากหลายมาก เดินบนเรือครั้งแรกๆอาจจะหลงนิดนึง ใช้เวลาสำรวจค่อนข้างเยอะพอสมควร
จุดที่แนะนำจะเป็นดาดฟ้าเปิดโล่ง ใกล้อาหาร ใกล้เวทีชมนักแสดง นักร้อง และวิวดีที่สุด ถือว่าคุ้ม
หากใครที่ชอบอยากไปนั่งเล่น กินลม ชมวิว ทานอาหาร เพลินๆ เน้นคุยกับเพื่อนๆแนะนำไปทางหัวเรือ จะได้ยินเสียงเพลงคลอเบาๆ สบายๆ

เส้นทางล่องเรือเจ้าพระยา

สะพานพระราม 8
RAMA VIII Bridge
สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
Somdet Phra Pinklao Bridge
ท่าเรือวังหลัง
Wanglang
วัดระฆังโฆสิดาราม
Wat Rakang
วัดอรุณราชวราราม
Wat Arun Ratchawararam
ป้อมวิไชยประสิทธิ์
Wichai Prasit Fort
วัดกัลยาณมิตร
Wat Kalayanamit
ไอคอนสยาม
ICON SIAM
สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน
King Taksin The Great Bridge
ป้อมพระสุเมรุ
Phra Sumen Fort
ท่ามหาราช
The Maharaj
พระบรมมหาราชวัง
The Temple of the Emerald Buddha
วัดโพธิ์
Wat Pho
ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค
Yodpiman Riverwalk
สะพานพระพุทธยอดฟ้า
Phra Pok Klao Bridge
สะพานพระปกเกล้า
Phra Pok Klao Bridge
กรมเจ้าท่า
Marine Department
เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
Asiatique the River Front